เราเชื่อว่าซาปาเป็นสถานที่ในฝันของใครหลายคนที่อยากเที่ยวเอเชียใต้ใกล้บ้านอากาศหนาวๆแต่ค่าครองชีพน่ารัก แถมได้สัมผัสธรรมชาติ ฤดูอื่นๆก็ได้ชมนาขั้นบันไดสีเขียวสด ปลายปีชมหมอกหนาๆ ต้นปีก็ได้ลุ้นหิมะ เป็นเมืองตากอากาศที่คูลมากๆ สำหรับเราที่นี่ถือว่าเป็นลิสท์ Winter Trip ที่ใครๆหลายคนใฝ่ฝันอยากเดินทางมาเยือนเลยหล่ะ
และเดินทางมาซาปานักท่องเที่ยวจะนิยมนั่งรถไฟสุดเท่แบกเป้ใบใหญ่ ดูมีความเพอร์เฟคได้อรรถรสในการเดินทางมากๆ แต่!! ทริปนี้เราและเพื่อนโหวตการเดินทางโดยรถบัสนอน(Sleeping Bus) เหตุผลก็คือ ถูกกว่าและสะดวกกว่ารถไฟเยอะมาก ถ้ามารถไฟค่าใช้จ่ายแพงกว่า และต้องต่อรถจากสถานีรถไฟเข้าเมืองอีก รถบัสจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทริปเรา
เราจองรถบัสนอนผ่านเว็บไซต์โดยตรงของบริษัท Sapa Expresses ราคาไปกลับ 8xx฿ บางคนอาจจะได้ราคาถูกหรือแพงกว่านี้แต่ถ้าอยู่ในความพึงพอใจของท่านก็จัดเลย จงใช้คติ Don’t worry be happy! ฮ่าๆ
ใช้เวลาในการเดินทาง 5-7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงหน้าหนาวด้วยว่าสะดวกมากไหม จะพาเราถึงซาปาเร็วรึช้าก่อนเวลา ในส่วนทริปของเราช้าจ้า
ที่พักที่ Yen’s House
พิกัดไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองเลยซะทีเดียว แอบขยับออกมาหน่อยถ้าเช่ามอไซค์ข้ามวันไว้จะสะดวกมาก แต่ก็สามารถเดินไปหาของกินชมวิวใจกลางเมืองได้ ทำให้คนที่มาพักที่นี่ได้บรรยากาศที่หลากหลายได้ทั้งมุมสงบแต่ก็ไม่ห่างไกลจุดศูนย์กลาง ที่สำคัญราคาที่พักไม่แพงด้วยหารกันแล้วตกคืนละสองร้อยกว่าบาทเอง แต่วิวห้องสวยมากกกก
และที่นี่มีอาหารบริการโดยจ่ายเงินเท่าๆกันแต่ทุกคนจะมานั่งโต๊ะกินข้าวร่วมกันในมื้อที่แจ้งไว้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆและได้รับความเป็นกันเองจากเจ้าของที่พักด้วย
1 วันกับมอเตอร์ไซค์ 1 คน
พวกเราติดตอเช่ารถมอไซค์จากที่พักมีเป้าหมายใน1วันคือไปหมู่บ้านกั๊ตกั๊ตที่เดียวและชมวิวตามไหล่ทางไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่เช่ารถเพราะแอบกลัวทางคดไปคดมา ขึ้นลงเขา ยิ่งการขับรถสไตล์คนเวียดนามที่บีบแตร่ปรี๊ดๆทำให้เราขาดความมั่นใจ แต่เราและเพื่อนก็ผ่านมันมาได้ด้วยความ Strong! ฮ่าๆ
หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต – Cat Cat Village
เราจะไม่โฟกัสความเป็นมาของหมู่บ้านแต่จะเล่าแค่ที่เห็น ก็คือความเป็นอยู่ของชาวม้ง มีการจำหนายของที่ระลึกเกี่ยวกับม้ง มีน้ำตกที่วิวสวยมาก มีเด็กน่ารัก บวกกับบรรยากาศดีๆตลอดทั้งปี ที่นี่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่ก็มีอะไรที่ต้องมาถ้ามาถึงซาปา เพิ่มเติมคือมีของที่ขายอัพราคายิ่งน้ำดื่มจะขายแพงกว่าในเมืองมากแต่ก็ต้องจำใจซื้อถ้าไม่ได้เตรียมไป เพราะเดินนิดๆหน่อยๆแต่ก็แอบเหนื่อยเหมือนกัน
ระหว่างทางขากลับแอบแวะคาเฟ่ที่วิวสวยที่สุด แต่วันที่เรามาหมอกหนามาก จนมองไม่เห็นวิวภูเขาสวยๆเลยตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว ฮ่าๆ
ทริปเราสั้นมากๆเลยใช้เวลาอีกวันที่ซาปาด้วยการเดินเล่น เข้าร้านอาหารมื้อพิเศษที่เพื่อนใหม่สาวเวียดนามพามา และใช้เวลาไปกับการนั่งเล่นคาเฟ่ชิลรอขึ้นรถบัสกลับฮานอย
ซาปาสำหรับเราเป็นเมืองที่ไม่มีอะไรโดดเด่นมากมายถ้าให้เปรียบเทียบกับเมืองตากอากาศสีสันสดใสอย่างเมืองดาลัตของเวียดนามใต้ แต่อากาศดีๆ ธรรมชาติสีเขียวที่เหมือนกัน เลยเป็นเมืองที่เรารู้สึกว่าอยากกลับมาที่นี่เพื่อพักผ่อนอีกรอบ 🙂
5jime 