Shangri La | แชงกรีล่าสีเขียว เพราะฤดูนี้มีแต่สีเขียว

แชงกรีล่าสีเขียวคือชื่อที่เราเรียกตามฤดูกาล โดยแชงกรีล่าจะมีฤดูที่เต็มไปด้วยสีเขียวคือช่วงเดือน พฤษภาคม-กันยายน    พอเข้าสู่ช่วงตุลาคม-ต้นธันวาคมจะเป็นแชงกรีล่าสีเหลืองน้ำตาลนั่นก็คือฤดูใบไม้ร่วง  และช่วงที่สวยและหนาวที่สุดคือแชงกรีล่าสีขาว เต็มไปด้วยหิมะขาวโพ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคมจนถึงเมษายน

พวกเราไปกัน 7 คน 7 วัน  เดินทางช่วง 1-7 มิถุนายน 2560 จึงใช้ชื่อทริปนี้ว่าแชงกรีล่าสีเขียวววว..

ตัวอย่างแพลน 7 วันของทริปเรา

Day1 : Kunming / Train to Lijiang

Day2 : Lijiang Old Town

Day3 : Jade Dragon Snow Mountain / Blue Moon Valley / Impression Lijiang

Day4 : Bus to Zhongdian (Shangri La) / Zhongdian Old Town

Day5 : Songzanlin Monastery / Napa Lake

Day6 : Back to Kunming

Day7 : Kunming to Thailand

ทริปของเราปักหมุดไปที่บินลงเมืองคุณหมิง แล้วนั่งรถไฟต่อไปเมืองลี่เจียงและตามด้วยแชงกรีล่าเมื่องปิดทริป เราบินกับแอร์เอเชียรอบ 08:00 มาถึงเมืองคุณหมิงประเทศจีนประมาณ 11:25  หลังจากนั้นก็รับกระเป๋าเตรียมตัวเข้าเมืองคุณหมิง

มีวิธีเข้าเมืองอยู่ 2 วิธี คือ

วิธีที่ 1 โดยรถบัสเข้าออกประตูหมายเลข 3 จะเจอรถบัสหมายเลข2 ขึ้นคันนั้นเลยมันจะพาเราไปส่งหน้าโรงแรม Kunming Jin Jiang Hotel ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ แล้วเดินต่อไปอีกหน่อยเดียว

วิธีที่ 2  โดยรถ Taxi หรือคนที่เดินเข้ามาเสนอราคารถส่วนตัว สามารถขึ้นได้3-4 คน จะเจอราคาอยู่ที่ 80-100 หยวนต่อคัน ถ้าราคารับได้ เราว่ามันก็เป็นทางเลือกที่สะดวก   เคสเราได้ข้อเสนอมาว่ารถสามารถขึ้นได้ 7 คน จ่ายคนละ 25 หยวน พวกเราเลยเซย์เยส! ทันที

 

จองรถไฟไปลี่เจียง เมื่อคนขับรถมาส่งที่สถานีรถไฟ พวกเราก็ดิ่งตรงไปจุดซื้อตั๋วเลยอันดับแรก และบอกเลยว่าถ้าไม่ได้จองตั๋วมาล่วงหน้า จะเป็นการซื้อตั๋วที่ลำบากและยุ่งมากเพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษเลย แต่เราโชคดีที่ให้เพื่อนที่สามารถพูดภาษาจีนได้โทรคุยให้ ส่วนเราก็มีหน้าที่เตรียมเงิน+พาสปอร์ต และชี้รอบขบวนรถไฟที่เราต้องการ โดยสามารถเช็ครอบหรือจองตั๋วล่วงหน้าผ่านเว็บนี้ได้ จองตั๋วเช็ครอบรถไฟคลิก!

 

เราเลือกแบบ Hard sleeper 152 หยวน ใน1ล็อคจะมี 6 เตียง ในขบวนรถไฟจะมีน้ำร้อนให้หากใครเตรียมมาม่าชากาแฟมาก็จัดได้เลย และมีที่เสียบปลั๊กสะดวกสบายหายห่วง ข้อสำคัญ! อย่าลืมเอาปลั๊กพ่วงมาด้วยนะจ๊ะ

รถไฟจากคุณหมิงก็จะมาถึงเมืองลี่เจียงประมาณ 6 โมงเช้าพอดิบพอดี มาถึงก็จะได้รับพลังงานแก่งความสดชื่น อุณหภูมิราวกับอยู่ในตู้เย็นคูลมากๆ หลังจากเก็บกระเป๋าทำตัวสดใสออกจากสถานีรถไฟก็หารถเข้าเมืองกันเลย หน้าสถานนีรถไฟมีมีป้ายรถเมล์ แต่กรุ๊ปคนเยอะอย่างพวกเราก็ใช้บริการเหมารถตู้ไปเลย ราคาตกคนละ 10 หยวนเท่านั้น

 

map20lijiang20town

แผนที่เมืองเก่าลี่เจียงรูปนี้เป็นตัวช่วยที่ดีมาก อยากกราบคนที่เขียนขึ้นมา แผนที่ใบอื่นๆที่โรงแรมแจกดูแล้วเข้าใจยากปวดหัวให้โยนทิ้งไปได้เลย แล้วใช้ใบนี้เข้าใจง่ายสุดๆ Download Maps !

รถตู้ก็จะมาส่งพวกเราที่หน้าเมืองเก่าลี่เจียง แล้วก็เดินตามแผนที่ไปยังจุดกังหันน้ำเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการไปที่พักให้สะดวกและสามารถจดจำได้ง่าย บรรยากาศเมืองเก่ายามเช้าเงียบเหงามากจนถึงมากที่สุด

img_5433

เมืองเก่าลี่เจียงมีค่าบำรุงเมือง 70 หยวน แต่เรามีวิธีเข้าแบบไม่เสียเงินแต่ก็ไม่ได้ลักลอบเข้าไป คือ เข้าก่อน 6 โมงเช้า กลับหลัง 2 ทุ่ม ซึ่ง2ทุ่มของที่นี่ยังฟ้าสว่างอยู่เราสามารถไปเดินเล่นชมวิวที่อื่นๆรอเวลาได้

ที่พัก Yi Liu Hostel

img_5083

เราเลือกห้องแบบ 2 เตียง 2 ห้อง  และ3เตียง 1 ห้อง รวมราคาทั้งหมดตกที่ 1124.40 หยวน (5630บาท) หารกันแล้วตกคนละ 400 บาทต่อคืนถือว่าไม่แพงเลย  ในส่วนของห้องน้ำสะอาดหายห่วง มีผ้าเช็ดตัวให้ มีเครื่องทำความอุ่นใต้เตียง และขอตือนเลยว่าการมาที่พักเป็นอะไรที่หายากมากๆเราเดินงมหาอยู่2ชั่วโมง จนตัดสินใจให้คนจีนแถวๆนั้นช่วยคุยให้และให้เจ้าขอที่พักเดินมารับพวกรา ฮ่าๆ

…ได้เวลาสำรวจและทำความรู้จักเมืองเก่าลี่เจียง…

 

และนี้ก็เป็นลี่เจียงวันแรกของเรา เราใช้เวลาไปกับการนอนหลังจากเดินทางข้ามวันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยพอเริ่มเย็นแต่ฟ้ายังสว่างอยู่ก็ออกไปเดินเล่นชมเมืองเก่า ที่นี่เต็มไปด้วยอาหารคาวหวานทั้องอร่อยและไม่อร่อย ของฝากน่ารักๆ ร้านโปสการ์ด จนไปถึงสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่ดูเหมือนเคยเห็นแต่มันก็ดูแปลกใหม่กว่าที่บ้านเรา ลี่เจียงมีครบทุกรสชาติเลย แต่เอาจริงๆเราก็รู้สึกว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ทำขึ้นมาใหม่รองรับนักท่องเที่ยวมากเกินไป ไม่มีอะไรดั้งเดิมแบบที่เราตั้งใจมาสัมผัส


ตามหาภูเขาหิมะมังกรหยก

แพลนวันนี้ของเราคือการไปตามหาภูเขาหิมะมังกรหยก!!

การหาทัวร์ไปเที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยกสามารถติดต่อผ่านบริษัททัวร์ในเมืองเก่าลี่เจียงได้เลย มีอยู่ทุกซอกซอยเป็นร้อยบริษัท ไว้ใจได้ทุกเจ้า จะต่างกันที่ราคาเท่านั้น หรือที่พักบางแห่งก็มีบริการเช่นที่พักเราแต่เราสู้ราคาไม่ไหว พวกเราเดินถามเกือบ10 ที่ จนเจอบริษัทเดียวที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เลยตกลงทันที ได้มาในราคา 620 หยวน พาไป 3 ที่ คือ

1. Jade Dragon Snow Mountain

2. Blue Moon Valley

3.Impression Lijiang

เป็นทัวร์แบบ OneDay Trip เริ่ม 7 โมงเช้าถึง 4โมงเย็น  ค่าเข้าชมแต่ละที่แพงมากๆ จึงไม่ต้องแปลกใจไปว่าทำไมค่าทัวร์ถึงมีราคาสูง แต่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มก็เลือกตัดข้อ3 ออกไป ทำให้ได้ราคาถูกลงไปครึ่งนึงเลย

7:30 น. ไกด์มารับพวกเราและพาขับรถออกมาจากเมืองเก่าไม่ไกลมาก  และแวะรับอุปกรณ์ที่ไกด์เตรียมไว้ในราคาที่ตกลงกัน มีกระป๋องออกซิเจน,เสื้อกันหนาว คนละ1ชิ้น  หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมงไกด์ก็จะพาแวะที่มุมมหาชนที่คนเยอะที่สุดแต่วิวสวยที่สุด เป็นวิวภูเขาสีเขียวตัดกับภูเขาหิมะสีขาว ตระการตามากๆ

Jade Dragon Snow Mountain

เรานั่งกระเช้าจากภูเขาสีเขียวไล่ขึ้นไปจนเจอภูเขาหิมะสีขาว มันตื่นเต้นมาก ร้องว้าวและกรี๊ดไปตลอดทาง แต่การอยู่ข้างบนภูเขาหิมะมันเป็นช่วงเวลาที่สั้นและเร่งรีบมาก เพราะอากาศที่หนาวเย็นความชื้นจนตัวเปียก ทำให้ทุกคนรีบถ่ายรูปสูดลมเข้าปอดแล้วรีบกลับทันที

เราอยู่ในจุดที่สูงจากระดับน้ำทะเล 4506 เมตร ที่นี่สูงสุดที่ 5596 เมตร แต่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนขึ้นไปถึงจุดนั้นเลย

ก่อนเราจะมาที่นี่ เรามีความกังวลเยอะมาก กลัวช็อคตายกลัวไม่มีอากาศหายใจ เพราะข้างบนนั้นออกซิเจนน้อยมาก จนต้องมีออกซิเจนกระป๋องติดตัวไว้คนละอันช๊อคโกแลตคนละชิ้นไว้เพิ่มพลังงาน เตรียมตัวมาขนาดนั้นเลยหล่ะ เอาจริงๆที่เตรียมมาเราว่าไม่ได้ช่วยเราเท่าไหร่และอาจเป็นเพราะว่าเรามาช่วงกลางปีที่อากาศไม่ได้หนาวสุดขั้วแบบต้นปี แต่จริงๆก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคนด้วยว่าแข็งแรงมากน้อยแค่ไหนเป็นโรคแพ้ความสูงหรือโรคหัวใจรึป่าว แต่สำหรับช่วงมิถุนายนของเรา มันโอเคเลย

 

Blue Moon Valley – ไป๋สุ่ยเหอ

ที่นี่เป็นแม่น้ำสีฟ้า ฟ้ามากกกๆใสมากๆ ในแต่ละฤดูที่นี่ก็สวยแตกต่างกันไปช่วงที่เรามาจะเห็นวิวด้านหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยกตัดกับภูเขาสีเขียวจัด ถ้ามาช่วงเดือนพฤศจิกายนก็จะตัดกับสีเหลืองส้มสวยงามกับแม่น้ำสีฟ้าแบบเดียวกัน คือมาฤดูไหนก็สวย ข้อเสียคือนักท่องเที่ยวเยอะไป จนเหมือนไปเดินตลาดความตื่นเต้นก็ลดลง แต่ก็เข้าใจแหละว่าความสวยงามบางอย่างก็ต้องแบ่งกันชื่นชม อิอิ

 

Impression Lijiang

คือการแสดงที่ใช้นักแสดงเยอะมาก พื้นที่กว้างมาก มีสัตว์ท้องถิ่นมาเป็นตัวร่วมฉาก มีวิวภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นพื้นหลัง ตระการตาที่สุด นักแสดงประสานเสียงรวมกันดังกระหึ่ม เล่าเรื่องผ่านท่าทางถึงแม้พวกเราฟังภาษาจีนไม่ออกก็รับรู้ได้ว่านี้เป็นการแสดงเล่าเรื่องวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่นั่นในอดีต บอกเลยว่าตื่นตาทุกนาที


จบการแสดงประมาณ 4 โมงเย็นพอดี คนขับรถก็กลับมาส่งพวกเราที่เมืองเก่าลี่เจียง เป็นเดย์ทริปที่รู้สึกว่าทั้งชอบและไม่ชอบ เพราะความเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงๆด้วยมั้งเลยทำให้ไปทางไหนคนก็เยอะไปหมดเสน่ห์มันก็เลยลดลง แต่มาถึงลี่เจียงแล้วก็ต้องไป 3 ที่นี้ให้ได้นะ ห้ามพลาด!


ลี่เจียงสู่แชงกรีล่า

ถึงเวลาย้ายเมือง จากลี่เจียงสู่แชงกรีล่า เราไปโดยรถบัสระหว่างเมือง มีค่ารถอยู่ที่ 58หยวน ระหว่างทางจากลี่เจียงมาแชงกรีล่าก็จะเจอภูเขาดินสีน้ำตาลความแห้งแล้งและการก่อสร้าง แต่พอใกล้ถึงเมืองจงเตี้ยนที่เราเรียกว่าแชงกรีล่าก็จะเริ่มเจอภูเขาสีเขียวและธงมนต์ปลิวไสว จากที่หลับๆอยู่ก็ต้องรีบตื่นมาบันทึกวิวด้วยสายตา มันสวยและตื่นเต้นมากจริงๆ  มันไม่ได้ต่างจากวิวธรรมชาติที่เคยเห็นในชีวิต แต่มันมีแรงดึงดูดบางอย่างให้รักมากๆ

img_6179img_6156

 

เราเลือกพักที่ Shangri-La 3 are 3 resortel ที่นี่ดีมากๆเมลล์มาบอกเราก่อนวันเดินทางว่าแท็กซี่ที่นี่ไม่น่าไว้ใจอาจโดนชาร์จราคา เลยบอกว่าถ้ามาถึงให้โทรหาหรือWe Chat ไปบอกเขาก็ได้ แล้วจะมารับพวกเราที่สถานนีรถบัส น่ารักมาก

ที่พัก Shangri-La 3 are 3 resortel

img_1080img_1086img_1087img_1085-1img_1083img_1082img_1084

เราจองห้องแบบ 4คน และห้องแบบ3คน หารกันแล้วตกคืนละ 2xx บาท คือถูกมากๆ ห้องนอนภายในก็เหมือนโรงเเรมทั่วไปไม่ได้เป็นสไตล์ท้องถิ่น สะอาดถูกใจไม่มีข้อติ ส่วนภายนอกก็สวยงามตามสไตล์ธิเบต
เป็นอีก1วันที่เราว่างและใช้เวลาทำความรู้จักกับเมืองแชงกรีล่า เรียกว่าวันนี้ใช้ชีวิตเป็นคนที่นั่นไปเลยแค่เพิ่มเติมคือมีกล้องถ่ายรูป 🙂

img_1056-2img_1057-2img_1059-2img_1060-2


One day trip in Shangri-La
ไปดูวัดธิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมลฑลยูนาน

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักเมืองจงเตี้ยนหรือแชงกรีล่าแบบประเดี๋ยวประด๋าว วันที่2ของที่นี่ เรามีแพลนจะไปวัดลามะซงจ้านหลิน (Songzanlin) และทะเลสาปนาปาไห่ (Napa Lake) เราติดต่อรถผ่านที่พักสุดใจดีของเราเลย ซึ่งที่นี้จะมีแพคเก็จให้เลือกหลายแบบว่าต้องการไปที่ไหนบ้างและพอใจในราคาไหน

วัดลามะซงจ้านหลิน (Songzanlin)
เป็นวัดธิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนาน วัดนี้จำลองมาจากวัดโปตาลาแห่งกรุงลาซา ประเทศธิเบต ที่นี่จึงมีชื่อสองเรียกว่าวัดโปตาลาน้อย                                             (ค่าใช้จ่ายค่ารถ+ตั๋วเข้าวัด 120หยวนต่อคน)

ที่นี่นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ค่าเข้าก็แพงมากเช่นกัน แต่ถามว่าคุ้มไหม  เราตอบได้เลยว่าคุ้มมากสำหรับครั้งแรกในชีวิตที่ได้สัมผัสวัฒนธรรมสไตล์จีนธิเบต

 

ทะเลสานาปาไห่ (Napa Lake)
ในฤดูที่เรามาที่นี่เป็นทุ่งหญ้าสีเขียว มีหลายจุดมากๆ ที่นี่มีบริการขี่ม้าชมรอบทะเลสาป ชมธรรมชาติดูม้าและจามรีกินหญ้า มีกิจกรรมยิงธนูขี่จามรีถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
(ภาคบ่ายเสียค่ารถ 350หยวน ต่อรถ1คัน)
(ค่าเข้า 60หยวนต่อคน)

18882132_1692726840741693_170058961070126409_n18952531_1692726804075030_9091007109445568312_n19092856_1701118193235891_6068062397580294834_oimg_1050-1img_1054-1img_1052-1แต่เราว่าการมาที่นี่เลือกเดินชมเองจะได้ความรู้สึกที่ฟินมากกว่า เดินเล่นไปเรื่อยๆได้เท่าไหนก็เท่านั้น สบายๆ

img_1095img_1096

จบทริป1วันที่แชงกรีล่า ไม่มีอะไรหวือหวามากมาย แต่เรารักแชงกรีล่ามาก เราพูดกับตัวเองตั้งแต่ตอนยังไม่ลงจากรถจนถึงตอนที่ได้ทำความรู้จักที่นี่ ได้เดินเล่น มองท้องฟ้าที่เห็นเมฆอยู่ใกล้ๆตัว ยังรู้สึกรักเหมือนเดิมยิ่งรักเขาไปใหญ่<3


กลับคุณหมิงเพื่อเตรียมตัวกลับไทย 

หมดเวลา เมื่อมันถึงเวลากลับบ้าน กลับสู่คุณหมิงเมืองเริ่มต้นที่จากมา บางคนก็ใช้วิธีนั่งเครื่องบินแต่คนงบน้อยอย่างพวกเราเลือกใช้บริการรถบัสนอน (Night bus) ใช้เวลาประมาณ12 ชั่วโมง (ราคา213หยวน) ให้ที่พักเป็นธุระจัดการให้เช่นเคย อาจโดนชาร์จราคานิดหน่อยแต่แลกกับความสะดวกสบายไม่ต้องไปจองตั๋วที่สถานีเองถือว่าโอเคเลย

img_0318

 

**การเดินทางจากสถานีรถบัสไปสนามบิน ให้เดินไปเลยหน้าสถานนีจะเจอป้ายเขียนบอกชัดเจนอยู่และมี Airport Bus คันสีฟ้าๆ คุยยากหน่อยสื่อสารกันไม่รู้เรื่องหรอก ให้ใช้วิธีเปิดรูปแล้วชี้เลยว่าจะไปสนามบินแล้วจ่ายเงิน 13 หยวน เป็นอันจบจ้า
จากทริปคุณหมิงสู่ลี่เจียงและจบที่แชงกรีล่า เป็นเวลา7วัน แต่ให้ความรู้สึกเหมือน3วัน เพราะใช้เวลาไปกับการเดินทางซะส่วนใหญ่ แต่ระหว่างทางก็มีวิวที่ทำให้เราว้าวและตื่นเต้นได้ตลอด

ความรู้สึกสำหรับทริปนี้คือแชงกรีล่าเป็นเมืองที่เราอยากกลับมาอีกลี่เจียงมันสะดวกสบายเกินไปคงไม่กลับไปอีกเพราะเราชอบดิบๆกลิ่นดินกลิ่นต้นไม้และน่าเสียดายคือวันเราน้อยมากจนไม่สามารถไปได้ถึงย่าติง(Yading National Park) เพื่อตามหาซัมบาลาแบบที่คิดเอาไว้หวังว่าสักวันจะได้กลับมาแถบนี้และไปให้ถึงซัมบาลาที่อยากเจอแต่ตอนนี้อยู่กับซัมบาลาในใจตัวเองไปก่อนเนอะ  🙂

 

 

สรุปค่าใช้จ่ายแบบง่ายๆทริป 7วัน 3เมือง
ค่าตั๋วลงคุณหมิง 3300 บาท
ค่าวีซ่าจีน 1500 บาท
แลกเงินมา15000 มีทอน 3000บาท
สรุปทริปนี้รวมทุกอย่างหมดไปประมาณ 16,800 -17,000 บาท ราคานี้ของฝากกุ๊กกิ๊กๆด้วย สิ่งที่ดูดเงินเราไปมากที่สุดคือค่าเข้าสถานที่และค่าวันเดย์ทริป ถ้าตัดสถานที่หลายๆแห่งออกไปค่าใช้จ่ายจะเซฟได้อีกเยอะเลย
การใช้งาน Internet แนะนำที่ดีที่สุด

1.Nihao Sim 3 GB (955฿) ซิมมีอายุ 10 วัน >> ใช้ได้ทุกที่มีติดขัดบ้างระหว่างทางแต่ก็แนะนำให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ข้อเสียไอโฟนไม่สามารถเล่นLineได้ แม้จะโหลด VPN ตามคำแนะนำของผู้ให้บริการแล้ว

2. Travel Sim Asia BY Truemove H (399฿) 4 GB ใช้ได้นาน 8 วัน  >>เล่นทุกแอพโดยไม่ต้องโหลด VPN ไม่แพงและดีมากๆ ข้อเสียคือที่เมืองแชงกรีล่าไม่สัญญาณ

1 Comment

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s