Vietnam – สวัสดีเวียดนามใต้

สวัสดีเวียดนาม ทริปแรกในชีวิตที่ได้แบกเป้

ทริปแบกเป้แรกในชีวิตเจอกันที่เวียดนามใต้ เซย์ฮัลโหลไซ่ง่อน  ไซ่ง่อนหรือชื่อใหม่ที่เรียกว่าโฮจิมินห์ที่นี่ในความรู้สึกเรามันไม่ได้ตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจอะไรมากมายมีแต่ความรู้สึกหวาดระแวงเพราะเราได้ฟังคำพูดของคนอื่นๆจากรีวิวท่องเที่ยวว่าที่นี่อันตรายมากๆเราจะต้องระมัดระวังตัวเรื่องการเก็บสิ่งของมีค่าติดไว้กับตัวให้ดี เพราะเราอาจจะถูกกระชากกระเป๋ากลางวันแสกๆก็ได้ แต่ความจริงไปที่ไหนที่ไม่ใช่บ้านตัวเองก็คงต้องระหวังตัวหมด

และด้วยการมาเที่ยวโฮจิมินห์ครั้งนี้ของเราเราได้ไกด์สุดพิเศษคือเพื่อนๆที่เรียนภาษาเวียดนามจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามมาเป็นไกด์พาทัวร์ เดินดูไปเรื่อยเหนื่อยก็พักตามใจชอบ นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกแต่รู้สึกเป็นกันเองมากๆ  ( ขอบคุณเพื่อนๆอีกครั้งนะคะ 🙂 )


มอเตอร์ไซค์ในเวียดนามเป็นจุดเด่นของเวียดนามไปแล้ว

โบสถ์นอร์ธเธอดาม (Notre Dame Cathedral)

   
  
  เราสังเกตได้ว่าหนุ่มสาวชาวเวียดนามผิวพรรณและหน้าตาดีมากๆเหมือนหนุ่มสาวเกาหลีเลยแต่สวยกว่าด้วยซ้ำ  ฮี่ๆ


  
  

เฝ่อ คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวหรือจะใช้คำว่าเหมือนก็ได้ แต่เฝ่อเวียดนามให้ผักเยอะมากๆ

พอเราได้ทำความรู้จักโฮจิมินห์พอหอมปากหอมคอแล้ว สถานที่ต้องไปอีกที่ก็คือเมืองดาหลัต วันนี้เราต้องมารับเพื่อนอีก 1 คน ชื่อว่าเบนนี่ ตอนนี้สมาชิกที่จะไปดาหลัตด้วยกันเลยเหลือเพียง 4 คน คือ เบนนี่ คิง แก้ว ปิ่น  และเรา

พวกเราขึ้นรถบัสแบบนอนจากโฮจิมินห์ประมาณ 3ทุ่ม แต่ก็จะถึงดาหลัตตอนเช้าพอดี

Night Bus จากโฮจิมินห์ ไป ดาหลัต

มาถึงดาหลัตเราและเพื่อนตื่นเต้นสุดติ่ง เพราะอากาศหนาวววมากๆ เหมือนอยู่เมืองจีนทั้งที่ไม่เคยไป แต่สัมผัสเอาเอง ฮ่าๆ   แตกต่างจากตอนอยู่โฮจิมินห์มากๆที่ร้อนจนตับแตก แต่ก็รู้สึกว่ามาเที่ยวแล้วเจอหลายๆฟีลทั้งร้อนทั้งหนาว เก๋มาก

‘ Dalat City ‘ บ้านเรือนแต่ละหลังมีสีสันน่ารัก
ดาหลัตไม่มีอะไรเป็นจุดเด่นแต่ทุกอย่างมันลงตัวและน่ารักไปหมด แค่มองบ้านเรือนหลากสี เด็กใส่ชุดสีชมพู ผู้ใหญ่ใส่ชุดสีสันก็รู้สึกสดชื่นสายตา อากาศตอนเช้าก็ดีมากๆแต่พอเริ่มบ่ายก็ร้อนเหมือนกัน

แล้วเราก็จะสังเกตุเห็นได้เลยว่าตอนเช้าๆจะมีคุณลุงคุณตามานั่งจิบน้ำชาร้อนๆสนทนาสภากาแฟกัน เพื่อนที่เรียนเอกภาษาเวียดนามเลยเล่าให้ฟังว่าเราจะเห็นแต่ผู้ชายเท่านั้นที่มานั่งจิบชาตอนช้าแบบนี้เพราะถ้าป็นผู้หญิงทำมันจะดูไม่งาม

คนดาหลัตชอบใส่เสื้อผ้าสีสันมากๆ โดยเฉพาะเด็กๆจะชอบใส่สีชมพูจน (อันนี้สีพาสเทลน่ารักจัง)

เฝ่อดาหลัต ไม่มีหมูและไม่มีเนื้ออื่นๆนอกจากเนื้อวัว เราผู้ไม่กินเนื้อวัวจึงได้แต่ผัก
        IMG_2712                   

จานผักจะคู่มีกับเกือบทุกเมนูทุกมื้อเลย


 

‘Tulip Hotel’ เป็นที่พักที่คนไทยรู้จักกันดี เพราะที่นี่เป็นที่พักที่ถูกรีวิวมากที่สุดในกลุ่มผู้ที่เดินทางมาเยือนดาหลัต ขนมปังฝรั่งเศสแบบปลอมที่แข็งแทบกัดไม่เข้า มีร้านขายอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมเลย ขอรีวิวแรงๆว่า โครตจะไม่…… เลย

เด็กน้อยคนนี้ทำให้ดาหลัตอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป ทำให้เราสัญญากับตัวเองว่าต้องกลับมาที่นี่และถ้าเป็นไปได้ก็อยากเจอเด็กน้อยคนนี้อีก

เวลาประมาณเที่ยงๆเรา Check out ออกจากที่พักเตรียมตัวไปมุ่ยเน่ โดยเหมาะรถของโรงแรมทิวลิป ทางโรงแรมบริการดีมากๆรถก็นั่งสบายใช้ได้เลย แต่ถนนก็ขรุขระเขย่าโยกเยกเป็นบางช่วงสนุกสนานดีมากๆฮ่าๆ

บ้านเรือนระหว่างทางจากดาหลัตไปมุยเน่ ปิ่นเพื่อนผู้ร่วมทริปบอกว่า รัฐบาลเวียดนามจะเเจกที่ดินให้ประชาชนคนละเท่าๆกันเพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัย เราจึงมองเห็นได้ว่าบ้านแต่ละหลังมีทีดินขนาดเท่ากัน และไม่มีใครสามารถครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของตัวเองได้เยอะๆแบบบ้านเรา …ข้อสำคัญคือเราจะเห็นบ้านแต่ละหลังมีสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับพระแม่มารีย์..

 

เรามาถึงมุ่ยเน่แล้วเรา Walk in หาที่พักกันอย่างทรหด คิงเจ้าเพื่อนตัวอ้วนก็บอกว่าปวดขาไม่ไหวแล้ว เดินบ้างพักบ้างตลอดเวลา ฮ่าๆ อีกอย่างเลยที่อยากเล่าเรารู้สึกว่าการที่นี่ยิ่งเป็นทริปแรกที่แบกเป้เราเลยได้รับความรู้สึกใหม่ๆว่าที่ผ่านมาไม่รู้จะอยากขาวไปทำไม เราน่าจะพอใจในผิวเหลืองๆแดงๆของตัวเองสิ เราใส่แขนสั้นรู้สึกผิวไหม้แบบมีความหมายเรารู้ว่าผิวไหม้เพราะอะไร เพราะการผจภัยไงหละ วันนั้นทั้งวันเลยยอมดำซะเลย ❤


  
  
  มุยเน่ ในฝันทะเลทรายเล็กๆ เราก็มาถึงแล้ววว ถึงแม้มันจะไม่ได้ใหญ่โตโอ้โห้อะไรมากมายแต่ก็โอเคสำหรับคนที่ไม่เคยเห็นฟ้าจรดทรายอย่างเรา

 

อากาศร้อนมากๆแต่เราต้องวิ่งไปจุดที่สวยที่สุดเพื่อถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึกขวัญ..
  แก้วตากำลังต่อกลอนถกเถียงกันเป็นภาษาเวียดนามกับเด็กน้อยที่พยายามขายสไลด์เดอร์ในราคาที่แพงมากๆ บอกว่าไม่ซื้อๆก็เดินตามไม่ไปไหน ยิ่งเด็กรู้ว่าเพื่อนเราพูดภาษาเวียดนามได้ยิ่งตามและถามว่าพูดได้ไง เราก็อดขำและแชะภาพนี้ไม่ได้ (เราชอบภาพนี้มากๆเพราะท้องฟ้ามันตัดกับทะเลทราย สีสวยถูกใจ)
  img_4341-1img_27621
  

  fairy stream ที่นี่ไม่ได้อยู่ในลิสต์เราเหตุผลง่ายๆคือไม่รู้จัก  แต่มาแล้วร้องกรี๊ดเลยว่าเวียดนามมีอะไรแบบนี้ด้วยหรอไม่เคยรู้เลย มันชวนตะลึงระดับ 7

แล้วเราก็เดินตามทางไปเรื่อยๆเหมือนเดินเล่นแต่ปลายทางก็ไม่มีอะไรหรอกทุกคนก็เดินกลับ เหมือนคำคมแหละ ‘ไปไกลแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องกลับบ้าน’

 

 

ถึงเวลากลับบ้านแล้ว เราก็ยังใช้บริการรถบัสนอนเหมือนเดิม นอนสบายเหมือนเดิมเหม็นบาทาบ้างทนได้สบายมาก ระหว่างทางแวะพักรถก็เจอห้องน้ำแบบเซ็กซี่ๆโชว์สรีระ โชว์ขาคนปลดทุกข์ บายจ้า ถ่ายรูปไว้ดูพอเน้อ ฮี่ๆ

เฝ่อที่อร่อยที่สุดตั้งแต่มาเวียดนาม อยู่ที่มุยเน่นะ

ความสามารถในการยัดเสื้อผ้าใส่เป้ใบเล็กคนละ 1ใบ เพื่อใช้ชีวิต7วัน 🙂
ขอบคุณ เพื่อนเอกภาษาเวียดนามที่พาเที่ยวโฮจิมินห์ ขอบคุณ คิง เบนนี่ แก้วตา ปิ่นที่เป็นเพื่อนที่ดูแลเขาอย่างดี คิดถึงนะ รักเมืองดาหลัตมากๆด้วย เซย์ฮัลโหลพี่เจเจผู้พบระหว่างทาง และพี่อาร์ตกับเพื่อนด้วยพี่ไม่รู้จักเราแต่เรารู้จักพี่นะ 

    
 

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s