เดินเล่นของฉัน วันนี้คือความต้องการที่จะอยากพักผ่อนโดยอัตโนมัติ อากาศที่ร้อนของเมื่อวาน ร้อนแบบร้อนมากๆ กับพยากรณ์อากาศที่บอกว่าเช้าวันนี้ฝนจะตก อาจารย์จึงบอกไว้ล่วงหน้าว่าถ้าเช้าวันนี้ฝนตกไม่ต้องมาเรียน รับทราบพร้อมเพรียงกันถ้วนหน้า
แล้วฝนก็ตกจริงๆ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่ามันตกตอนไหน รู้แค่ว่า ตื่นมาอ่านไลน์กลุ่มของห้อง แล้วเพื่อนบอกว่าฝนตก แล้วฉันก็ปิดเสียงโทรศัพท์ นอนต่อทันที และนี้ก็เป็นวันแรกที่ร่างกายฉันได้พักผ่อน หลังจากที่ต่อสู้กับงานมาหลายอาทิตย์ไม่ได้หลับได้นอน
เข้าสู่การเดินเล่นของฉันวันนี้เลย หลังจากที่ฝอยทองมายืดยาว ฉันตื่นบ่าย 2 แล้วฉันก็คิดแค่ว่า ไม่ได้พาตัวเองออกไปเดินเล่นคนเดียวมาหลายอาทิตย์ แล้วฉันก็ตัดสินใจที่จะออกไปไหนสักที่โดยที่ไม่มีจุดหมาย ฉันตั้งงบให้การเดินเล่นวันนี้ 300 บาท
ดินเล่นไปกับฉัน ณ บัดนาว
เติมพลังยามบ่ายด้วยบะหมี่ร้านโปรด จ่ายไป65บาทแรก ด้วยความอร่อย
ฉันมายืนรอรถเมลล์จากจุดที่ฉันอยู่ แล้วรถเมลล์คันแรกที่จะพาฉันไปเดินเล่น คือ รถเมลล์ฟรี เข้าทางทริปหรรษาวันนี้มากๆ ปลายทางของด่านแรกก็เลยกลายเป็นสนามหลวงไปโดยตั้งใจแต่ไม่เจตนา
แล้วฉันก็ถึงปลายทางแรกของวันนี้ คือสนามหลวง ลงมาปุ๊ปสายตาฉันก็มองไปที่ลุงคนหนึ่งที่แต่งตัวได้น่ารักมากๆ
แล้วตากะยาย ก็ถึงเวลาที่ต้องโยกย้ายจากฉันไป
พบกันใหม่นะคะ คุณตาคุณยาย แฮ่ๆ แล้วฉันก็เดินเล่น ถ่ายรูป ของฉันต่อ
ฉันมักแอบถ่ายภาพคนที่กำลังอยู่คนเดียว มากกว่าคนที่อยู่กันเป็นกลุ่ม ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรแค่รู้สึกว่ามันได้อารมณ์ดี อาจจะเพราะวันนี้ฉันก็มาคนเดียว วันนี้เลยได้ความรู้สึกเหมือนได้มาดูผู้คนใช้ชีวิต
ไอติมโคนละ 20 บาท ออกมาจากร้านละลายทันที
ฉันว่าจะเดินไปเรื่อยๆไปนั่งเรือข้ามไปวัดอรุณ แต่ใจก็ลังเลอยากเลี้ยวขวาจากที่ยืนอยู่ ไปดูคนใช้ชีวิตฝั่งแผงพระท่าพระจันทร์
แต่หายนะก็มาเยื่อน เมื่อฉันปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ เลยเดินเข้าไปใน ม.ศิลปากร หาห้องน้ำยังไงก็หาไม่เจอ เลยตัดสินใจจะเข้าไปวัดพระแก้ว แต่วัดพระแก้วก็ถึงเวลาปิดอีก เหงื่อตกทันที ปวดท้องมากแบบจะทนไม่ไหว เลยต้องเปลี่ยนเป้าหมาย เดินย้อนกลับมาทางป้ายรถเมลล์ที่ลงในตอนแรก แล้วรีบวิ่ง เข้า ม.ธรรมศาสตร์ ขอพึ่งพาอาศัย อยากเข้าห้องน้ำไม่ไหวแล้ว
แต่ระหว่างทางฉันก็ยังมีอารมณ์ถ่ายรูป
ฉันเดินหาห้องน้ำอีกครั้ง แต่ใจของฉันมันบอกว่า ปากมีไว้ทำไมสงสัยอะไรทำไมไม่ถาม ฮ่าๆ เลยมุ่งตรงไปที่ลุงยาม “ลุงค่ะ แถวนี้มีห้องน้ำตรงไหนบ้างค่ะ”
ลุงเลยตอบว่า “ชั้น 2 เลี้ยวขวาเลย”
แล้วลุงก็นั่งชิลๆต่อไป ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ฉันก็ยังแอบถ่ายรูปอีก
แหละนั้นก็คือ ชั้น2 ของคณะนิติศาสตร์
รอดสักทีที่อดทนมาเนิ่นนาน ฮ่าๆ รู้สึกตัวเองหน้าตาบูดเบี้ยวไป1ชั่วโมง ยิ้มได้สักที
เมื่อได้ทำธุระเสร็จเรียบร้อย ยังเหลือเวลาพอที่จะยืนมองวิวรอบๆของมอ แล้วก็ได้เพียงภาพลานจอดรถนี้มา ที่ฉันคิดว่ามันเป็นภาพที่ดีมากๆสำหรับฉันแล้ว
ขอบคุณห้องน้ำของตึกนิติศาสตร์ ธรรมศาาตร์อีกครั้งที่ปลดทุกข์ห้องฉันให้หายเป็นปลดทิ้ง 🙂
แล้วฉันก็ต้องเปลี่ยนจุดหมายอีกรอบ จากลังเลที่จะเดินเล่นแถวท่าพระจันทร์ ฉันก็คิดว่าเดินไปถนนพระอาทิตย์ดีกว่า
ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า มุมที่ฉันคิดว่าคงไม่มีคนถ่าย คงไม่มีคนมองเห็นจุดบอดที่มันไม่น่าดูนี่สักเท่าไหร่ แต่ฉันก็คิดว่าถ่ายไว้ก็คงไม่เป็นไร
งบ300 ที่ตั้งไว้ ฉันยังใช้ไปไม่ถึงร้อยบาท ฉันเลยอยากมองหาร้านอาหารน่ารักๆหรือคาเฟ่เล็กๆเพื่อที่จะไปนั่งพัก แต่ด้วยความที่มันมีหลายร้าน ฉันก็เลือกแล้วเลือกอีก จนสุดขอบถนนในที่สุดฉันก็ไม่ได้เข้าสักร้าน แต่ก็คิดอีกแง่ฉันจะได้ลิสต์ร้านพวกนั้นเอาไว้ว่ามีร้านไหนน่าสนใจบ้าง แล้วคราวหลังค่อยมาก็ได้ เดินเล่นต่อไปดีกว่า




ใกล้จะจบทริปเดินเล่นของวัน จบแบบไม่อยากจบง่ายๆ ปัญหาคือแบตกล้องจะหมด จะใช้ไอโฟนถ่ายรูปก็แตกเป็นผงชูรส บวกกับเวลายามเย็นกับเวลาเดินเล่นคนเดียวคงหมดลง แชะ3-4ภาพสุดท้ายให้กล้องดับไปเอง



จบวันนี้ด้วยการที่เพื่อนทักไลน์ว่าอยากกินมนต์นมสด ฉันก็เลยเดินไปกิน ฮ่าๆ สวัสดีพระนคร
สรุปวันนี้ งบที่ตั้งไว้ว่ 300บาท ใช้ไปทั้งหมด
-บะหมี่ 65 บาท
-ไอติม 20 บาท
-มนต์นมสด์ 48 บาท
-รถเมลล์ขาไป ฟรี
-รถเมลล์ขากลับ 6.50 บาท
-รวมทั้งหมดใช้ไป 139.50 บาท เหลือเงิน 160.50 บาท เย้!
ใช้เวลาในการเดินเล่นไป 5 ชั่วโมง รอบหน้าฉันว่าจะใช้แอปเซฟเส้นทางที่ฉันเดินไว้ละ ว่าเราวนไปทั่วแคว้นแดนพระนครไกลขนาดไหน ฮ่าๆ
รูปสุดท้ายที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์ แต่งด้วย VSCO cam เจ้าเก่า
Like this:
Like Loading...